ประวัติส่วนตัว
วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ 6
วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
Ariel
แอเรียล (Ariel) สร้างจากเทพนิยายของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงเงือกน้อยนามเเอเรียลที่หลงรักเจ้าชายรูปหล่อชาวมนุษย์เลยเกิดเรื่องวุ่นๆ ตามมา
วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ราพันเซล
ราพันเซล (เยอรมัน: Rapunzel) คือเทพนิยายเยอรมัน ได้ถูกเก็บรวบรวมโดยพี่น้องตระกูลกริมม์ ลงพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2355 ราพันเซลเป็นหนึ่งในเทพนิยายที่มีชื่อเสียง และเนื่อเรื่องได้ถูกการนำไปใช้ในการแสดงโดยนักวาดการ์ตูน และนักแสดงตลกมากมาย
กอเธลลักพาตัวราพันเซลไปซ่อนไว้ในหอคอยสูงกลางป่า แล้วเลี้ยงดูประดุจบุตรในอุทร เพื่อใช้ผมของราพันเซลช่วยให้นางคงความเยาว์วัยและสวยสด นางทราบดีว่า ถ้าตัดผมของราพันเซลออก ผมนั้นจะเสื่อมสรรพคุณ ดังนั้น นางจึงปล่อยให้เกศาของราพันเซลยาวโดยมิได้ตัดเลย และมิให้ราพันเซลออกนอกหอคอยเลย ทั้งนี้ ทุก ๆ ปี ในวันคล้ายวันประสูติของราพันเซล พระราชาและราษฎรของพระองค์จะปล่อยโคมลอยนับแสนดวงขึ้นสู่ฟ้า พวกเขาหวังว่าโคมลอยจะนำพาพระธิดาของพวกเขากลับมาอีกครั้ง เช้าวันหนึ่งเมื่อกอเธลกลับมา ราพันเซลขอให้นางไปเก็บเปลือกหอยมาให้เป็นของขวัญวันเกิดกอเธลยอมใช้เวลาเดินทางสามวันไปเอาของขวัญมาให้ ระหว่างนั้น ราพันเซลตกลงกับยูจีนว่า ให้พาเธอออกไปนอกหอคอย เพื่อไปชมดูเหล่าโคมลอย ที่เธอเข้าใจว่าเป็น "หมู่ดาว"ระหว่างเดินทาง กอเธลพบม้าแม็กซิมัสที่ไม่มีคนขี่ และเกิดกังวลขึ้นมาว่าจะมีคนไปพบราพันเซลขึ้น เธอรีบกลีบไปยังหอคอย แต่พบว่าราพันเซลไม่อยู่แล้ว ฟลินพาราพัลเซลหนีไปได้ พอไม่นานราพัลเซลก็ถูกกอเธลจับตัวไปเมื่อฟลินมาถึงหอคอย กอเธลแทงเขาจากข้างหลัง ก่อนราพันเซลจะได้ช่วยฟลิน ฟลินคว้าเศษกระจกมาตัดผมของราพันเซล เกศาของราพันเซลจึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มและสูญเสียสรรพคุณไป กอเธลบันดาลโทสะและร่างกายนางก็เปลี่ยนกลับสู่ความชราอย่างรวดเร็ว จนนางมิอาจยอมรับเงาของตนในกระจกได้ และใช้ผ้าคลุมปิดหน้าตนเองไว้ ด้วยความโกรธและตระหนก นางสะดุดพุ่งออกจากประตูหอคอย ดิ่งลงสู่พื้นเบื้องล่าง ร่างกายของนางก็ร่วงโรยขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนนางจะปะทะกับพื้นแล้วป่นเป็นเถ้ากระดูกไป ยูจีนค่อย ๆ ตายลงในอ้อมแขนของราพันเซล ด้วยความเสียใจ ราพันเซลร้องไห้และร้องเพลงมนต์ หยาดน้ำตาของเธอหยดลงบนแก้มของยูจีนและยังให้เขาฟื้นจากความตายอีกครั้ง
วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
เอเรนเดลล์
"เรื่องย่อๆ แบบหนาวๆ
ภาพยนตร์แอนนิเมชั่นที่เข้าฉายในโรงฯ เรื่องที่ 53 ของ Disney's เรื่องนี้เล่าถึง
อาณาจักรที่สวยงาม นามว่า "เอเรนเดลล์" พระราชา และพระราชินี มีลูกสาว 2 คน "แอลซ่า"(คนโต) และ "อันนา" คนเล็ก แอลซ่าเกิดมาพร้อมพรวิเศษที่สามารถเสกน้ำแข็งและหิมะได้ตามใจ คืนหนึ่งที่ทั้งสองได้เล่นกันท่ามกลางกองหิมะเสก แอลซ่า เผลอปล่อยมนต์ไปถูก อันนา ตรงหัว ทำให้ผมปอยหนึ่งของเธอเป็นสีขาว และตัวก็เย็นเป็นน้ำแข็ง พระราชาและพระราชินี นำลูกท้ังสองไปบนหุบเขาเพื่อหา ชาวเป่า "โทรลล์"(หินพูดได้) ผู้วิเศษ ผู้เฒ่าได้ช่วยเหลือ อันนาไว้ ด้วยการเปลี่ยนสมอง ความทรงจำเรื่องเวทมนต์ที่อันนาจำได้จะหายไป .....หลังจากนั้นเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับใครอีก... แอลซ่า และ อันนา ต้องแยกกันอยู่อย่างสิ้นเชิง อันนาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ พี่จึงเปลี่ยนไปโดยไม่สุงสิงกับเธออีก... ส่วนแอลซ่าเองก็ต้อง ฝึกควบคุมพลังของตนให้ได้ เพื่อไม่ให้พลังนั้น ไปทำร้ายใครอีก (โดยมีถุงมือ1คู่ เพื่อฝึกสำหรับควบคุมพลังของตนได้ง่ายขึ้น)... และเพื่อไม่ให้ความลับดังกล่าว หลุดรั่วออกไป แม้กระทั่งคนในวัง และจนภายนอก....ประตู และหน้าต่างวังทุกบานถูกปิดมิดชิด... และพระราชวังก็ไม่เปิดรับใครอีก นับแต่นั้น
เรื่องยิ่งแย่ลง เมื่อ พระราชา และพระราชินี สิ้นพระชมน์กระทันหัน ด้วยอุบัติเหตุกลางทะเล
ทั้งสองคน จึงเติบโตมาอย่าง เดียวดาย
สามปีต่อมา เมื่อ "แอลซ่า" เติบโต จนมีอายุครบ จึงจัดให้มีพิธีราชินีภิเษกขึ้น เป็นครั้งแรกที่มีงานฉลอง ประตู หน้าต่าง เปิดขึ้นเต็มที่เป็นครั้งแรกในตลอดหลายปี.... และเป็นอีกครั้งที่พระราชวังเปิดรับแขกจากต่างแดน.... ในพิธี แอลซ่าที่ยังควบคุมพลังของตนไม่ได้ดีนัก ก็กังวลจะเปิดเผยความลับต่อสาธารณะชน... และทุกอย่างจะผ่านไปได้ยาก แต่เธอก็ควบคุมมันได้.... และช่วงเวลานี้เอง... เป็นเวลาที่ "แอลซ่า" และ "อันนา" ได้พูดคุยกันในรอบหลายๆ ปี.... ในงานเลี้ยง อันนาได้พบกับ "เจ้าชายฮอน" ที่อยู่ในอาณาจักรทะเลใต้... ทั้งคู่สนิทสนมกัน จน อันนาตัดสินใจจะแต่งงานกับเขา.... (ทั้งที่เจอกันยังไม่ถึงวัน)
กลางดึกของงานเลี้ยง...อันนาพาฮอน มาพบกับ แอลซ่า เพื่อขอราชานุญาตแต่งงาน.... แอลซ่าไม่อนุญาตและเริ่มโกรธ จนควบคุมตัวเองไม่ได้...และนั่นเอง...ทำให้เธอเผยพลังที่ปกปิดมานานต่อทุกคน....
ทุกคนที่เห็น "ราชินี" ของเธอเสกน้ำแข็งได้ก็ตกใจ... ด้วยความที่กลัวทุกอย่างจะควบคุมไม่ได้ไปกันใหญ่ แอลซ่าตัดสินใจหนีออกจาก "เอเรนเดลล์" ในคืนนั้น... และด้วยอารมณ์ที่ไม่ปกติของเธอ ส่งผลให้ทั้งเมือง"เอเรนเดลล์" ปกคลุมไปด้วยหิมะ และฤดูหนาวไปตลอดกาล (ซึ่งนับวันจะยิ่งหนาวเหน็บขึ้นเรื่อยๆ)
แอลซ่า เดินทางจนถึงยอดเขาสูงทางเหนือ ในดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ...
สถานที่แห่งนี้เอง ที่เธอรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องระวังพลังวิเศษอะไร... เธอจึงเลือกภูเขาสูงแห่งหนึ่ง และสร้างปราสาทน้ำแข็งสวยงามวิจิตรไว้บนนั้น และเธอก็อยู่เพียงลำพัง
อันนา ตัดสินใจ จะตามตัว แอลซ่าพี่สาวของเธอกลับมา โดยได้มอบอำนาจการปกครอง เอเลนเดลล์ ไว้กับ "ฮอน"... เธอเดินทางได้ไม่ไกลนักม้าที่เธอใช้ก็พยศหนีไป โชคดีที่เธอไปเจอกับ "คริสติฟฟ์" ชายหนุ่มผู้ขายน้ำแข็ง และ "สเฟน" กว้างตัวใหญ่... ทั้งคู่ตกลงจะช่วยเหลือ อันนา.... ระหว่างการเดินทาง... อันนาได้พบกับมนุษย์หิมะที่มีชืวิตจริงๆ ชื่อ "โอลาฟ" พอเห็นก็รู้ทันทีว่า นี่คือ "โอลาฟ" เดียวกันกับที่ แอลซ่า และ อันน่า ร่วมกันปั้นในวัยเด็ก.... โอลาฟ เป็นผู้นำทางให้อันนา และ คริสติฟฟ์ มาพบกับปราสาทน้ำเข็งของ แอลซ่า ในที่สุด
แอลซ่าประหลาดใจ เมื่อเห็นอันนา มาถึงที่นี่... อันนาพยายามชักจูงให้พี่สาวกลับไปยังเอเลนเดลล์ และคลายมนต์ให้เมืองกลับมาอบอุ่นเหมือนเดิม... แอลซ่าปฏิเสธ ไม่ยังไม่รู้หนทางที่จะละลายน้ำแข็งและควบคุมเวทมนต์ของตนได้อย่างไร.... ทันใดนั้นเอง...แอลซ่า...เผลอปลอยมนต์ไปโดย อันนาโดยไม่ตั้งใจ...ซึ่งมนต์ครั้งนี้ ไปโดยตรง ตำแหน่ง "หัวใจ" ของอันนา พอดี..... ผลของเวทมนต์ทำจะให้ "หัวใจของอันนา จะถูกแช่แข็งทีละนิด และเสียชีวิตในที่สุด"
คริสตอฟฟ์ พาอันนามาหา "ชาวโทรลล์" อีกครั้งเพื่อหาทางช่วยเหลือ...ผู้เฒ่าบอกเพียงว่า "การกระทำแห่งรักแท้ จะช่วยละลายน้ำแข็งในใจได้".... ทุกคนจึงตีความไปว่า "ต้องเป็นจูมพิศของรักแท้แน่นอน"
"คริสตอฟฟ์" จึงพาอันนากลับเข้าวังเพื่อมาหา "ฮอน"
ภาพยนตร์แอนนิเมชั่นที่เข้าฉายในโรงฯ เรื่องที่ 53 ของ Disney's เรื่องนี้เล่าถึง
อาณาจักรที่สวยงาม นามว่า "เอเรนเดลล์" พระราชา และพระราชินี มีลูกสาว 2 คน "แอลซ่า"(คนโต) และ "อันนา" คนเล็ก แอลซ่าเกิดมาพร้อมพรวิเศษที่สามารถเสกน้ำแข็งและหิมะได้ตามใจ คืนหนึ่งที่ทั้งสองได้เล่นกันท่ามกลางกองหิมะเสก แอลซ่า เผลอปล่อยมนต์ไปถูก อันนา ตรงหัว ทำให้ผมปอยหนึ่งของเธอเป็นสีขาว และตัวก็เย็นเป็นน้ำแข็ง พระราชาและพระราชินี นำลูกท้ังสองไปบนหุบเขาเพื่อหา ชาวเป่า "โทรลล์"(หินพูดได้) ผู้วิเศษ ผู้เฒ่าได้ช่วยเหลือ อันนาไว้ ด้วยการเปลี่ยนสมอง ความทรงจำเรื่องเวทมนต์ที่อันนาจำได้จะหายไป .....หลังจากนั้นเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับใครอีก... แอลซ่า และ อันนา ต้องแยกกันอยู่อย่างสิ้นเชิง อันนาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ พี่จึงเปลี่ยนไปโดยไม่สุงสิงกับเธออีก... ส่วนแอลซ่าเองก็ต้อง ฝึกควบคุมพลังของตนให้ได้ เพื่อไม่ให้พลังนั้น ไปทำร้ายใครอีก (โดยมีถุงมือ1คู่ เพื่อฝึกสำหรับควบคุมพลังของตนได้ง่ายขึ้น)... และเพื่อไม่ให้ความลับดังกล่าว หลุดรั่วออกไป แม้กระทั่งคนในวัง และจนภายนอก....ประตู และหน้าต่างวังทุกบานถูกปิดมิดชิด... และพระราชวังก็ไม่เปิดรับใครอีก นับแต่นั้น
เรื่องยิ่งแย่ลง เมื่อ พระราชา และพระราชินี สิ้นพระชมน์กระทันหัน ด้วยอุบัติเหตุกลางทะเล
ทั้งสองคน จึงเติบโตมาอย่าง เดียวดาย
กลางดึกของงานเลี้ยง...อันนาพาฮอน มาพบกับ แอลซ่า เพื่อขอราชานุญาตแต่งงาน.... แอลซ่าไม่อนุญาตและเริ่มโกรธ จนควบคุมตัวเองไม่ได้...และนั่นเอง...ทำให้เธอเผยพลังที่ปกปิดมานานต่อทุกคน....
ทุกคนที่เห็น "ราชินี" ของเธอเสกน้ำแข็งได้ก็ตกใจ... ด้วยความที่กลัวทุกอย่างจะควบคุมไม่ได้ไปกันใหญ่ แอลซ่าตัดสินใจหนีออกจาก "เอเรนเดลล์" ในคืนนั้น... และด้วยอารมณ์ที่ไม่ปกติของเธอ ส่งผลให้ทั้งเมือง"เอเรนเดลล์" ปกคลุมไปด้วยหิมะ และฤดูหนาวไปตลอดกาล (ซึ่งนับวันจะยิ่งหนาวเหน็บขึ้นเรื่อยๆ)
แอลซ่า เดินทางจนถึงยอดเขาสูงทางเหนือ ในดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ...
สถานที่แห่งนี้เอง ที่เธอรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องระวังพลังวิเศษอะไร... เธอจึงเลือกภูเขาสูงแห่งหนึ่ง และสร้างปราสาทน้ำแข็งสวยงามวิจิตรไว้บนนั้น และเธอก็อยู่เพียงลำพัง
อันนา ตัดสินใจ จะตามตัว แอลซ่าพี่สาวของเธอกลับมา โดยได้มอบอำนาจการปกครอง เอเลนเดลล์ ไว้กับ "ฮอน"... เธอเดินทางได้ไม่ไกลนักม้าที่เธอใช้ก็พยศหนีไป โชคดีที่เธอไปเจอกับ "คริสติฟฟ์" ชายหนุ่มผู้ขายน้ำแข็ง และ "สเฟน" กว้างตัวใหญ่... ทั้งคู่ตกลงจะช่วยเหลือ อันนา.... ระหว่างการเดินทาง... อันนาได้พบกับมนุษย์หิมะที่มีชืวิตจริงๆ ชื่อ "โอลาฟ" พอเห็นก็รู้ทันทีว่า นี่คือ "โอลาฟ" เดียวกันกับที่ แอลซ่า และ อันน่า ร่วมกันปั้นในวัยเด็ก.... โอลาฟ เป็นผู้นำทางให้อันนา และ คริสติฟฟ์ มาพบกับปราสาทน้ำเข็งของ แอลซ่า ในที่สุด
แอลซ่าประหลาดใจ เมื่อเห็นอันนา มาถึงที่นี่... อันนาพยายามชักจูงให้พี่สาวกลับไปยังเอเลนเดลล์ และคลายมนต์ให้เมืองกลับมาอบอุ่นเหมือนเดิม... แอลซ่าปฏิเสธ ไม่ยังไม่รู้หนทางที่จะละลายน้ำแข็งและควบคุมเวทมนต์ของตนได้อย่างไร.... ทันใดนั้นเอง...แอลซ่า...เผลอปลอยมนต์ไปโดย อันนาโดยไม่ตั้งใจ...ซึ่งมนต์ครั้งนี้ ไปโดยตรง ตำแหน่ง "หัวใจ" ของอันนา พอดี..... ผลของเวทมนต์ทำจะให้ "หัวใจของอันนา จะถูกแช่แข็งทีละนิด และเสียชีวิตในที่สุด"
คริสตอฟฟ์ พาอันนามาหา "ชาวโทรลล์" อีกครั้งเพื่อหาทางช่วยเหลือ...ผู้เฒ่าบอกเพียงว่า "การกระทำแห่งรักแท้ จะช่วยละลายน้ำแข็งในใจได้".... ทุกคนจึงตีความไปว่า "ต้องเป็นจูมพิศของรักแท้แน่นอน"
"คริสตอฟฟ์" จึงพาอันนากลับเข้าวังเพื่อมาหา "ฮอน"
วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
Maroon 5
มารูน ไฟฟ์ (Maroon 5)
เป็นวงร็อกเจ้าของรางวัลแกรมมี่จากเมืองลอสแองเจลลิส แคลิฟอร์เนีย สมาชิกในวงทั้ง 5 คนประกอบไปด้วย Adam Levine (นักร้องนำ) , James Valentine (กีตาร์) , Jesse Carmichael (คีย์บอร์ด) , Mickey Madden (เบส) และ Matt Flynn (กลอง) พวกเขาเป็นที่รู้จักจากซิงเกิ้ลฮิตอย่าง "Harder to Breathe", "This Love" และ "She Will Be Loved" ในปี 2007 วง Maroon 5 กลับมาพร้อมกับเพลงใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีจากอัลบั้มชุด It Won"t Be Soon Before Long และตามมาด้วยเพลงฮิตอย่าง "Makes Me Wonder"
เป็นวงร็อกเจ้าของรางวัลแกรมมี่จากเมืองลอสแองเจลลิส แคลิฟอร์เนีย สมาชิกในวงทั้ง 5 คนประกอบไปด้วย Adam Levine (นักร้องนำ) , James Valentine (กีตาร์) , Jesse Carmichael (คีย์บอร์ด) , Mickey Madden (เบส) และ Matt Flynn (กลอง) พวกเขาเป็นที่รู้จักจากซิงเกิ้ลฮิตอย่าง "Harder to Breathe", "This Love" และ "She Will Be Loved" ในปี 2007 วง Maroon 5 กลับมาพร้อมกับเพลงใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีจากอัลบั้มชุด It Won"t Be Soon Before Long และตามมาด้วยเพลงฮิตอย่าง "Makes Me Wonder"
อัลบั้มแรก "Songs About Jane" ขายได้กว่า 10 ล้านแผ่นทั่วโลก พร้อมคว้ารางวัลแกรมมี่ถึง 2 ครั้ง จากปี 2005 สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และ ปี 2006 สาขาศิลปินกลุ่มเพลงป๊อบยอดเยี่ยม จากเพลง This Love
วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
4minute
4minute เป็นเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลีใต้ จากค่าย Cube Entertainment ประกอบด้วยนัม จีฮยอน , ฮอ กายุน , จอน จียุน , คิม ฮยอนอา และ ควอน โซฮยอน 4minute ได้เปิดตัวต่อสื่อมวลชนเกาหลีเมื่อเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2552 โดยมีสมาชิก 2 คน คือ คิม ฮยอนอา และ นัม จีฮยอน หลังจากนั้นวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ได้เปิดตัววิดิโอทีเซอร์ทางเว็บไซต์ โดยในวีดีโอยังไม่เผยว่าสมาชิกอีก 3 คนคือใคร จนกระทั่งในวันที่ 12 มิถุนายน 4minute ได้ออกเพลงตัวเต็มและวีดิโอทีเซอร์ตัวใหม่ พร้อมประวัติของสมาชิกในวง 4minute ได้เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ท่ามกลางกระแสเกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังเป็นที่นิยม พวกเธอเปิดตัวซิงเกิ้ลแรกด้วยเพลง ‘Hot Issue’ ด้วยคอนเซปต์ candy funky เสื้อผ้าหน้าผมตั้งแต่หัวจรดเท้าที่มาพร้อมกับสีสันสดใส เข้ากับชื่อเพลงอย่าง Hot Issue ทางสถานี MNET ในรายการ "M! Countdown" และก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ต่อมาในเดือนสิงหาคม 4minute ก็ได้ออกมินิอัลบั้มแรกของพวกเค้าโดยใช้ชื่อว่า 4minute For Muzik 1st mini album ในอัลบั้มนี้มีเพลงฮิตติดหูอย่างเพลง Muzik ที่มาพร้อมกับท่าเต้น DJ Dance ที่เอามือมาจับไว้ตรงหูเหมือนกับจับหูฟังแล้วก็โยกไหล่ไปตามจังหวะ ที่คราวนี้โกยใจแฟนเพลงไปเต็ม ๆ เนื่องจาก 4 minute ได้เสียงตอบรับจากเพลง Muzik อย่างล้นหลาม เพราะเพลงของ 4minute ได้ติดชาร์ตต่างๆไปหลายชาร์ต และยังได้รับรางวัลจากหลายเวทีเช่น M Countdown , Inkigayo แถมยังได้รางวัลนักร้องหน้าใหม่จากหลายๆสำนักไปครอบครองอีกด้วย หลังจากที่ได้รับกระแสความนิยมจากมินิอัลบั้มแรก 4minute ก็ได้จับมือเซ็นสัญญากับบริษัท Universal Music เพื่อทำการโปรโมทในต่างประเทศ และหลังจากที่เซ็นสัญญาแล้วก็ได้เริ่มออกเดินสายโปรโมทไปยังประเทศต่างๆในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทยด้วย หลังจากที่โปรโมทในต่างประเทศเสร็จไม่นาน 4minute ก็ได้ปล่อยมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ออกมาโดยใช้ชื่อว่า HUH 4minute 2nd mini album ซึ่งการกลับมาคราวนี้ 4minute ได้เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ไปจากเดิม โดยกลับมาในลุคที่ดูเข้มแข็งมากขึ้น หลังจากที่ปล่อยเพลงออกมาได้ไม่นาน เพลง HUH ก็ติดชาร์ตในอันดับต้นๆหลายชาร์ต ซึ่งถือว่าเป็นการกลับมาที่สามารถสร้างกระแสใหม่ๆให้กับวงการเพลงได้มากเลยทีเดียวความหมายของชื่อวง 4minute
วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
Taylor Swift นักร้องสาวป๊อป-คันทรี่ สุดฮอต
ประวัติ เทย์เลอร์ สวิฟต์ Taylor Swift นักร้องสาวป๊อป-คันทรี่ สุดฮอต ตามไปรู้จัก เส้นทางสายดนตรี และชีวิตรักของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ กันเลย
หากจะเอ่ยถึงนักร้องสาวสวยเสียงดี ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย หนึ่งในนี้คงจะหนีไม่พ้น เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ซูเปอร์สตาร์สาวเพลงป๊อป-คันทรี่ อย่างแน่นอน ที่ไม่ว่าออกซิงเกิลไหนก็ฮิตติดชาร์ตคนทั่วโลก จนทำให้เธอต้องเดินสายจัดคอนเสิร์ตในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย แต่แล้ว 27 พฤษภาคม 2557 ทางผู้จัดงานอย่างบีอีซี-เทโร ก็ได้แจ้งข่าวร้ายกับแฟน ๆ ว่า มีอันต้องยกเลิกคอนเสิร์ตเทย์เลอร์ สวิฟท์ ในไทย เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมือง ...แต่ถึงจะไม่ได้ฟังเสียงร้องของเธอแบบสด ๆ แต่วันนี้เราจัดเรื่องราวประวัติของนักร้องสาวสวยคนดังมาฝากกัน ใครชื่นชอบเธอคนนี้ตามมาเลย...
เทย์เลอร์ สวิฟต์ เกิดวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ที่เมืองไวโอมิสซิง รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา โดยสมัยเรียนเกรด 4 (ป. 4) เทย์เลอร์ สวิฟท์ ส่งกลอนความยาว 3 หน้ากระดาษชื่อ Monster In My Closet เข้าประกวดในการแข่งขันการแต่งกลอนระดับชาติ และได้รับรางวัลชนะเลิศมาครอง และเธอก็เริ่มเขียนเพลงครั้งแรกเมื่ออายุ 10 ขวบ เพื่อใช้ในการเข้าประกวดร้องคาราโอเกะระดับท้องถิ่นที่จัดขึ้นในงานเทศกาลต่าง ๆ
หากจะเอ่ยถึงนักร้องสาวสวยเสียงดี ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย หนึ่งในนี้คงจะหนีไม่พ้น เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ซูเปอร์สตาร์สาวเพลงป๊อป-คันทรี่ อย่างแน่นอน ที่ไม่ว่าออกซิงเกิลไหนก็ฮิตติดชาร์ตคนทั่วโลก จนทำให้เธอต้องเดินสายจัดคอนเสิร์ตในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย แต่แล้ว 27 พฤษภาคม 2557 ทางผู้จัดงานอย่างบีอีซี-เทโร ก็ได้แจ้งข่าวร้ายกับแฟน ๆ ว่า มีอันต้องยกเลิกคอนเสิร์ตเทย์เลอร์ สวิฟท์ ในไทย เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมือง ...แต่ถึงจะไม่ได้ฟังเสียงร้องของเธอแบบสด ๆ แต่วันนี้เราจัดเรื่องราวประวัติของนักร้องสาวสวยคนดังมาฝากกัน ใครชื่นชอบเธอคนนี้ตามมาเลย...
เทย์เลอร์ สวิฟต์ เกิดวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) ที่เมืองไวโอมิสซิง รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา โดยสมัยเรียนเกรด 4 (ป. 4) เทย์เลอร์ สวิฟท์ ส่งกลอนความยาว 3 หน้ากระดาษชื่อ Monster In My Closet เข้าประกวดในการแข่งขันการแต่งกลอนระดับชาติ และได้รับรางวัลชนะเลิศมาครอง และเธอก็เริ่มเขียนเพลงครั้งแรกเมื่ออายุ 10 ขวบ เพื่อใช้ในการเข้าประกวดร้องคาราโอเกะระดับท้องถิ่นที่จัดขึ้นในงานเทศกาลต่าง ๆ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)